ปรับแต่งคุณสมบัติของพอลิเมอร์ให้ตรงตามความต้องการ ด้วย Masterbatch และ Filler สารเติมแต่งสำคัญในอุตสาหกรรมพลาสติก
Masterbatch
Masterbatch คือส่วนผสมเข้มข้นของสีหรือสารเติมแต่งที่ถูกผสมอยู่ในเรซิน ช่วยควบคุมสีได้อย่างแม่นยำและเสริมคุณสมบัติวัสดุในกระบวนการผลิตพลาสติก เหมาะสำหรับงานบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ และสินค้าผู้บริโภค
ใช้งานสะดวก กระจายตัวได้ดี และให้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอทุกชิ้นงาน
Filler คือวัสดุที่เติมลงในพลาสติกเพื่อช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงสมรรถนะของวัสดุ
มักทำจากแคลเซียมคาร์บอเนต ทัลก์ หรือไฟเบอร์กลาส
ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความคงรูป และทำให้กระบวนการผลิตง่ายขึ้น
นิยมใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง และผลิตภัณฑ์พลาสติกทั่วไปในชีวิตประจำวัน
Masterbatch คือส่วนผสมเข้มข้นของเม็ดสีหรือสารเติมแต่งที่ถูกห่อหุ้มไว้ในพลาสติกตัวพา (carrier resin) ใช้สำหรับให้สีหรือเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะให้กับพลาสติกในกระบวนการผลิต
Masterbatch โดยทั่วไปประกอบด้วยเม็ดสีหรือสารเติมแต่งในความเข้มข้นสูง ผสมกับพลาสติกตัวพา ซึ่งมักเป็นพลาสติกชนิดเดียวกับพลาสติกที่ใช้ผลิตชิ้นงานจริง
ข้อดี:
ช่วยควบคุมสีได้แม่นยำ กระจายตัวของสารเติมแต่งได้ดี และใช้งานง่ายในขั้นตอนการผลิต
Masterbatch มีหลายประเภทตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น
Color masterbatch: ใช้สำหรับให้สี
Additive masterbatch: เพิ่มคุณสมบัติเฉพาะ เช่น ทน UV หรือหน่วงไฟ
Black masterbatch: ให้สีดำและปกป้องจากแสง
นิยมใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น บรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ ก่อสร้าง และสินค้าอุปโภค ที่ต้องการพลาสติกที่มีสีหรือคุณสมบัติพิเศษ
Filler คือสารเติมแต่งที่ผสมลงในพลาสติกเพื่อเพิ่มปริมาตรและลดต้นทุนการผลิต โดยทั่วไปเป็นวัสดุอนินทรีย์ที่ไม่ได้เพิ่มคุณสมบัติเชิงกลโดยตรง แต่ช่วยให้ขึ้นรูปได้ง่ายขึ้นและประหยัดต้นทุนวัสดุ
Filler แบ่งได้เป็นแบบอินทรีย์และอนินทรีย์ โดยชนิดที่ใช้บ่อย ได้แก่ ทัลก์ แคลเซียมคาร์บอเนต ไฟเบอร์กลาส และไมกา
ช่วยเพิ่มความแข็ง ความคงรูป ลดการหดตัวของพลาสติก และลดต้นทุนโดยการทดแทนส่วนหนึ่งของพอลิเมอร์หลักที่มีราคาสูงกว่า
การใช้งาน:
ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น
ยานยนต์ (เพิ่มความแข็งของชิ้นส่วน)
ก่อสร้าง (ลดต้นทุนวัสดุก่อสร้าง)
สินค้าอุปโภค (ลดต้นทุนในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการราคาย่อมเยา)
Differences
Masterbatch:
ใช้หลักในการให้สีหรือเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะให้กับพลาสติก เช่น ป้องกัน UV หน่วงไฟ หรือป้องกันไฟฟ้าสถิต
Filler:
ใช้เพื่อปรับเปลี่ยนคุณสมบัติทางกายภาพของพลาสติก เช่น เพิ่มความแข็ง ลดการหดตัว และช่วยลดต้นทุนวัสดุในการผลิต
Composition
Masterbatch:
ประกอบด้วยเม็ดสีหรือสารเติมแต่งความเข้มข้นสูง ผสมอยู่ในพลาสติกตัวพา (carrier resin)
Filler:
เป็นวัสดุอนินทรีย์ เช่น ทัลก์ แคลเซียมคาร์บอเนต หรือไฟเบอร์กลาส ที่เติมลงในพลาสติกเพื่อปรับคุณสมบัติและลดต้นทุน
Effect on Properties
Masterbatch:
ส่งผลโดยตรงต่อสีหรือคุณสมบัติเฉพาะของพลาสติก เช่น การป้องกันรังสี UV หรือความทนไฟ
Filler:
มีผลต่อคุณสมบัติทางกายภาพ เช่น ความแข็งและความคงตัวของรูปทรง โดยไม่เปลี่ยนแปลงสีหรือคุณสมัติเฉพาะของวัสดุอย่างมีนัยสำคัญ
Applications
Masterbatch:
นิยมใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความสม่ำเสมอของสีหรือคุณสมบัติเฉพาะ เช่น บรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
Filler:
ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานที่เน้นการลดต้นทุนและปรับคุณสมบัติทางกายภาพของพลาสติก เช่น งานก่อสร้าง และสินค้าอุปโภคทั่วไป